หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » นายเสฐียร ทั่งทองมะดัน
 
เข้าชม : ๑๙๙๗๗ ครั้ง
สมถกัมมัฏฐานในฐานะเป็นบาทฐานของวิปัสสนากัมมัฏฐาน
ชื่อผู้วิจัย : นายเสฐียร ทั่งทองมะดัน ข้อมูลวันที่ : ๓๑/๐๘/๒๐๑๓
ปริญญา : พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(พระพุทธศาสนา)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  พระสุธีธรรมานุวัตร, ผศ.ดร., ป.ธ.๙., MA., Ph.D.
  ผศ., รท. ดร. บรรจบ บรรณรุจิ ป.ธ.๙, พธ.บ., อ.ม., Ph.D.
  ผศ.ดร.สมิทธิพล เนตรนิมิตร ป.ธ.๙, พ.ม., พธ.บ., พธ.ม., Ph.D.
วันสำเร็จการศึกษา :
 
บทคัดย่อ

 

บทคัดย่อ

 

วิทยานิพนธ์เรื่องนี้ มีวัตถุประสงค์ ๓ ข้อ คือ ๑)  เพื่อศึกษาสมถกัมมัฏฐานในคัมภีร์วิสุทธิมรรคและคัมภีร์วิมุตติมรรค  ๒) เพื่อศึกษาความเหมือนกันและความต่างกันของ สมถกัมมัฏฐานในคัมภีร์วิสุทธิมรรคและคัมภีร์วิมุตติมรรค  และ ๓) เพื่อศึกษาวิเคราะห์สมถกัมมัฏฐานในฐานะบาทฐานของวิปัสสนากัมมัฏฐาน  

เป็นการวิจัยเชิงเอกสาร โดยวิเคราะห์สมถกัมมัฏฐานในฐานะเป็นอารมณ์ของวิปัสสนากัมมัฏฐาน ใน ๒ ประเด็นคือ ๑)  การใช้องค์ฌานเป็นอารมณ์ของวิปัสสนา  และ ๒) การใช้อารมณ์ของสมถกัมมัฏฐานเป็นอารมณ์ของวิปัสสนากัมมัฏฐาน แล้วนำมาบูรณาการสมถกัมมัฏฐานในคัมภีร์ วิสุทธิมรรคและคัมภีร์วิมุตติมรรค เพื่อใช้เป็นแนวทางการปฏิบัติ

ผลการวิจัยพบว่า สมถกัมมัฏฐานในคัมภีร์วิสุทธิมรรค แบ่งออกเป็น ๗ หมวดคือ กสิณ ๑๐   อสุภะ ๑๐ อนุสสติ ๑๐ พรหมวิหาร ๔ อรูปฌาน ๔ อาหาเรปฏิกูลสัญญา และ จตุธาตุววัฏฐาน ส่วน  ในคัมภีร์วิมุตติมรรคแบ่งออกเป็น ๓๘ ประการคือ กสิณ ๑๐ อสุภสัญญา ๑๐  อนุสสติ ๑๐ อัปปมัญญา ๔  จตุธาตุววัฏฐาน อาหาเรปฏิกูลสัญญา  อากิญจัญญายตนะ  เนวสัญญานาสัญญายตนะ  

ในด้านเนื้อหา ด้านการปฏิบัติ และผลการปฏิบัติ ทั้งสองคัมภีร์กล่าวไว้สอดคล้องเป็นแนวเดียวกัน แต่วิธีการปฏิบัติบางเรื่องก็แตกต่างกัน  ซึ่งสามารถสรุปประเด็นได้ ดังนี้ เมื่อปฏิบัติกัมมัฏฐานข้อใดข้อหนึ่ง อานิสงส์ที่ได้คือ การรู้เท่าทันความเป็นจริงของชีวิต มีสติ ไม่ประมาท คลายความยึดมั่นถือมั่น ดำเนินชีวิตอย่างมีสติ เป็นบาทฐานของวิปัสสนากัมมัฏฐาน  กล่าวคือสมถกัมมัฏฐานเมื่อเจริญแล้ว สามารถให้บรรลุมรรคผลนิพพาน หรือเป็นบาทฐานของการเจริญวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 

 

เมื่อวิเคราะห์สมถกัมมัฏฐานในฐานะเป็นบาทฐานของวิปัสสนา จะเห็นได้ว่า เมื่อเจริญสมถกัมมัฏฐานข้อใดข้อหนึ่ง  จิตตั้งมั่นเป็นขณิกสมาธิ อุปจารสมาธิและอัปปนาสมาธิ  จากนั้น องค์ฌานก็จะเกิดขึ้น ก็ใช้องค์ฌานนั้นเป็นบาทฐานในการเจริญวิปัสสนากัมมัฏฐาน  หรือใช้อารมณ์สมถกัมมัฏฐานบางหมวด เพื่อเป็นบาทฐานเพื่อการเจริญวิปัสสนา จนสามารถบรรลุอรหัตผลได้

ดาวน์โหลด

 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕