หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » พระมหาสาวาน จนฺทเสโน (วิน)
 
เข้าชม : ๑๙๙๙๕ ครั้ง
ประสิทธิผลการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของเทศบาลนครนครปฐม จังหวัดนครปฐม (รัฐประศาสนศาสตร์)
ชื่อผู้วิจัย : พระมหาสาวาน จนฺทเสโน (วิน) ข้อมูลวันที่ : ๓๐/๐๑/๒๐๑๘
ปริญญา : พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(การบริหารจัดการคณะสงฆ์)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  สุริยา รักษาเมือง
  สุรพล สุยะพรหม
  -
วันสำเร็จการศึกษา : มีนาคม ๒๕๕๙
 
บทคัดย่อ

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ ๑) เพื่อศึกษาประสิทธิผลการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของเทศบาลนครนครปฐม จังหวัดนครปฐม ๒) เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิผลการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของเทศบาลนครนครปฐม จังหวัดนครปฐม โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล และ ๓) เพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรคและข้อเสนอแนะต่อประสิทธิผลการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของเทศบาลนครนครปฐม จังหวัดนครปฐม

การศึกษาวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี โดยเป็นการวิจัยเชิงปริมาณ ใช้สำรวจกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ บุคลากรของเทศบาลนครนครปฐม จังหวัดนครปฐม จำนวน ๓๑๐ คน จากจำนวนประชากรทั้งหมด ๑,๓๖๑ คน ซึ่งใช้วิธีสุ่มกลุ่มตัวอย่าง โดยการใช้สูตรของทาโร่ ยามาเน่ (Taro Yamane) และวิเคราะห์ข้อมูลโดย เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปเพื่อการวิจัยทางสังคมศาสตร์ สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าความถี่ (Frequencies) ร้อยละค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ทดสอบค่าที (t-test) ทดสอบค่าเอฟ (F-test) ด้วยวิธีการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One Way ANOVA) และทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยเป็นรายคู่ด้วยวิธีผลต่างนัยสำคัญน้อยที่สุด (Least Significant Difference : LSD) ส่วนการวิจัยเชิงคุณภาพ ด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-Depth Interview) กับผู้ให้ข้อมูลหลัก (Key Informants) และใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหาประกอบบริบท

 

 

ผลการวิจัยพบว่า

๑) ประสิทธิผลการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของเทศบาลนครนครปฐม จังหวัดนครปฐม พบว่า ความคิดเห็นของบุคลากรที่มีต่อประสิทธิผลการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของเทศบาลนครนครปฐม จังหวัดนครปฐม โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (= ๓.๘๙ ) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน โดยมีลำดับดังนี้ ด้านหลักนิติธรรม (= ๓.๙๓ )  ด้านหลักคุณธรรม (= ๓.๙๓ ) ด้านหลักความโปร่งใส (= ๓.๘๗ ) ด้านหลักการมีส่วนร่วม (= ๓.๘๗ ) ด้านหลักความรับผิดชอบ (= ๓.๘๗ ) และด้านหลักความคุ้มค่า (= ๓.๘๕ )

๒) ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นของบุคลากรที่มีต่อประสิทธิผลการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของเทศบาลนครนครปฐม จังหวัดนครปฐม จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ เพศ อายุ ระดับการการศึกษา อาชีพ ระยะเวลาในการปฏิบัติงาน และรายได้ต่อเดือน พบว่า มีความคิดเห็นต่อประสิทธิผลการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของเทศบาลนครนครปฐม จังหวัดนครปฐม โดยรวมไม่แตกต่างกัน จึงปฏิเสธสมมติฐานที่ตั้งไว้

๓) ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะเกี่ยวกับประสิทธิผลการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของเทศบาลนครนครปฐม จังหวัดนครปฐม พบว่า ปัญหา อุปสรรค คือบุคลากรบางส่วนยังไม่มีความเข้าใจในเรื่องของกฎหมายและบังคับต่างๆ และยังขาดประสบการณ์ในการทำงาน บุคลากรบางคนยังขาดความมุ่งมั่นในการทำงาน ข้อเสนอแนะ คือผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ควรประพฤติให้เป็นตัวอย่างที่ดีแก่ประชาชน และควรนำเอาหลักธรรมาภิบาลมาประยุกต์ใช้ในการบริหารงาน ควรมีการปลูกฝังทางด้านคุณธรรมจริยธรรมให้เกิดขึ้นแก่บุคลากรส่งเสริมให้ บุคลากรเห็นประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน เสริมสร้างความสามัคคีให้เกิดแก่บุคลากร ภายในองค์การเพื่อนำไปสู่การบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิผล เพื่อเป็นการพัฒนาการบริหารงาน ให้สอดคล้องกับหลักธรรมาภิบาล โดยเฉพาะบุคลากรฝ่ายบริหารต้องเป็นผู้นำที่มีความรอบรู้และมี ความซื่อสัตย์ สุจริต ยึดหลักความถูกต้องเป็นที่ตั้งเป็นธรรมกับประชาชนทุกชุมชนและมีความเสมอ ภาคต่อโครงการพัฒนา ด้วยการเปิดโอกาสให้ประชาชนตรวจสอบมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น ในการตัดสินใจแก้ไขปัญหาต่างๆ และมีส่วนร่วมทุกมิติครอบคลุมขอบเขตชัดเจนต่อการบริหารงาน จนนำภาคองค์การไปสู่ความสำเร็จมีประสิทธิผลสูงสุดแบบยั่งยืน

 

ดาวน์โหลด

 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕