การวิจัยเรื่อง “การประยุกต์หลักพุทธธรรมเพื่อส่งเสริมธรรมาภิบาลในการแก้ปัญหาในองค์กรการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย  สำนักงานกลาง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี” มีวัตถุประสงค์  ๑. เพื่อศึกษาแนวคิดทฤษฎีและพุทธธรรมเกี่ยวกับการบริหารตามหลักธรรมาภิบาล   ๒. เพื่อศึกษาสภาพปัญหาภายในองค์การของพนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สำนักงานกลาง  อำเภอบางกรวย  จังหวัดนนทบุรี และ ๓. เพื่อประยุกต์หลักพุทธธรรมเพื่อส่งเสริม    ธรรมาภิบาลในการแก้ปัญหาในองค์กรการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สำนักงานกลาง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ซึ่งผู้ศึกษาได้ใช้วิธีการวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative  Research)  โดยการศึกษาจากข้อมูลเอกสารต่างๆ  และการสัมภาษณ์แบบเจาะลึกจากผู้ให้ข้อมูลสำคัญอันได้แก่ ผู้บริหารและพนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สำนักงานกลาง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี จำนวน ๙๘ คน โดยแบ่งออกเป็นผู้บริหารระดับต่างๆ จำนวน ๔๘ คน และพนักงานระดับต่างๆ จำนวน ๕๐ คน เพื่อให้ได้ข้อมูลการบริหารงานของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)  สำนักงานกลาง  อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี  ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น 

ผลจากการวิจัยพบว่า

๑. หลักธรรมาภิบาลเป็นรูปแบบของการบริหารจัดการที่ดี อันมีแนวคิดมาจากทางตะวันตก เป็นการบริหารจัดการองค์การอันก่อให้เกิดประสิทธิภาพในการดำเนินงาน เพราะเป็นหลักของการบริหารจัดการที่ใช้คุณธรรมนำหน้า ซึ่งหลักธรรมาภิบาลนี้เมื่อได้ศึกษาแล้วจะเห็นว่าตรงกับหลักทิศทั้ง ๖ หลักอปริหานิยธรรม ๗ และหลักสัปปุริสธรรม ๗ ทางพระพุทธศาสนา เพื่อใช้ในการบริหารตน บริหารคนและบริหารงานเป็นสำคัญ ๒. การนำหลักพุทธธรรมบูรณาการกับหลักธรรมา   ภิบาลเพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานให้เกิดแนวทางอันดีงามในการบริหารงานและปฏิบัติหน้าที่ของผู้บริหารและพนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อสร้างความโปร่งใสในการบริหารงาน ซึ่งตามหลักพุทธธรรมที่มีความเหมาะสมและครอบคลุมในการบริหารงานในระดับบุคคลโดยการนำหลักอิทธิบาท ๔ อันเป็นหลักธรรมที่เป็นเครื่องเตือนตนเองให้คิดดี ปฏิบัติดีมาประยุกต์ใช้, การนำหลักพรหมวิหาร ๔ อันเป็นหลักธรรมในการทำงานร่วมกันด้วยความสามัคคี เคารพให้เกียรติซึ่งกันและกันมาประยุกต์ใช้, การนำหลักอคติ ๔ อันเป็นหลักธรรมสำหรับผู้บริหารที่ต้องยึดหลักของความยุติธรรม มีความเป็นธรรมและเป็นกลางมาประยุกต์ใช้  และการนำหลักทิศทั้ง ๖ อันได้แก่  เหฏฐิมทิศหรือที่เรียกว่าทิศเบื้องล่าง ได้แก่ บทบาทหน้าที่ระหว่างผู้บริหารและพนักงานระดับล่าง กับอุตตรทิศหรือที่เรียกว่าทิศเบื้องซ้าย ได้แก่ บทบาทของมิตรสหายหรือเพื่อนที่เป็นสิ่งสำคัญในการปฏิบัติงานร่วมกับผู้อื่น  ๓. การนำมาบูรณาการกับธรรมาภิบาลด้วยหลักนิติธรรม หลักคุณธรรม หลักความโปร่งใส หลักการมีส่วนร่วม หลักความรับผิดชอบ และหลักความคุ้มค่า รวมถึงค่านิยมองค์การและวัฒนธรรมองค์การของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เมื่อนำมาบูรณาการกับหลักพุทธธรรมอย่างเหมาะสมและสมบูรณ์ดีแล้ว ย่อมมีความเหมาะสมในการนำไปประยุกต์ใช้สำหรับผู้บริหารและพนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อให้องค์การมีความเจริญก้าวหน้าและพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป

Download