วิทยานิพนธ์เรื่องนี้มีวัตถุประสงค์ คือ ๑) เพื่อศึกษาแนวคิด ความหมาย และคุณค่าของชีวิตและความตายในพระพุทธศาสนาเถรวาท ๒) เพื่อศึกษาแนวคิดเรื่องการเตรียมตัวตายและกระบวนการตายในพระพุทธศาสนาเถรวาทและวัชรยานแบบทิเบต ๓) เพื่อศึกษาการบูรณาการการเตรียมตัวตายในพระพุทธศาสนาเถรวาทกับวัชรยาน
ผลการวิจัยพบว่า ฐานของความคิดเรื่องการเตรียมตัวตาย มีมาแต่ดั้งเดิม คือเมื่อครั้งพระพุทธเจ้าเป็นพระโพธิสัตว์ทรงเห็นเทวทูตทั้ง ๔ มาปรากฏในรูปของคนชรา คนเจ็บ คนตาย และบรรพชิต เมื่อทรงเห็นสิ่งเหล่านี้แล้ว พระองค์ได้แสวงหาทางเพื่อพ้นจากความตาย จนกระทั่งได้ตรัสรู้อริยสัจ ๔ จากนั้นพระองค์ได้ทรงสั่งสอนเวไนยสัตว์ไม่ให้ประมาทในชีวิต ด้วยการทำประโยชน์ให้ตนเองและผู้อื่น อันเป็นการเตรียมตัวก่อนตายอย่างมีสติ พระพุทธศาสนามีหลักการอันเป็นแก่นแท้ คือ การสอนให้พุทธศาสนิกเข้าใจอริยสัจ ๔ ดังนั้น พระพุทธศาสนาเถรวาทจึงเน้นการสอนให้มนุษย์ตระหนักรู้ในทุกข์ และความไม่เที่ยงแท้แน่นอนของชีวิตที่ความตายจะเกิดขึ้นเมื่อไรก็ได้ คนเราจึงควรต้องเรียนรู้พุทธธรรม เพื่อการเตรียมตัวตาย และต้องเตรียมชีวิตให้ก้าวข้ามพ้นทุกข์ อันมีเหตุมาจากอวิชชา โดยเริ่มเรียนรู้ไตรสิกขาซึ่งทำได้ด้วยการอบรมตนเองให้ประพฤติมั่นคงอยู่ในศีลบริสุทธิ์ ฝึกจิตให้มีสัมมาสมาธิ ด้วยศีลที่บริสุทธิ์และสมาธิที่ตั้งมั่นจะ บ่มเพาะให้การภาวนาเจริญขึ้นจนกระทั่งเกิดปัญญามีความเห็นถูกต้องตรงตามความเป็นจริง พระผู้มีพระภาคทรงสอนให้พุทธสาวกเข้าใจ เรื่องความตายกับปฏิจจสมุปบาท และสังสารวัฏ คำสอนที่สำคัญที่สุดคือ ความไม่ประมาทตลอดเวลาที่ใช้ชีวิต โดยการเจริญมรณสติ พิจารณาความตาย อย่างรู้เท่าทันความจริงของชีวิต และประพฤติดีปฏิบัติชอบตั้งแต่ก่อนตายไปจนถึงขณะกำลังตาย เพราะทั้งกรรมดีและกรรมชั่วจะส่งผลให้ภายหลังตาย
พระพุทธศาสนาวัชรยานมีสาระอันเป็นแก่นแท้ คือการสอนให้พุทธศาสนิกตระหนักรู้ในชีวิต และความไม่เที่ยงแท้แน่นอนของชีวิต ที่ความตายจะเกิดขึ้นเมื่อไรก็ได้ จึงควรต้องเรียนรู้พุทธธรรม เพื่อเข้าใจความหมายและคุณค่าของชีวิต กระบวนการตาย และการเตรียมตัวตาย โดยเฉพาะพระพุทธศาสนาวัชรยาน ก็เช่นเดียวกับเถรวาทคือเน้นการสอนให้มนุษย์เข้าใจเรื่องกฎแห่งกรรมและหลักปฏิจจสมุปบาท ซึ่งเป็นไปตามเหตุปัจจัย จึงทำให้มีเกิด แก่ เจ็บ และตายซึ่งล้วนเป็นทุกข์จึงต้องเตรียมชีวิตให้ก้าวข้ามพ้นทุกข์ อันมีเหตุมาจากอวิชชา ชาวพุทธวัชรยานตระหนักว่าในชาตินี้ มีโอกาสได้ร่างมนุษย์อันประเสริฐ จึงต้องใช้ร่างกายนี้ปฏิบัติตามเจตนาที่ดีอย่างสุดหัวใจในการละเว้นอกุศลกรรมบถ ๑๐ และยาพิษทั้ง ๕ คือ โลภะ โทสะ โมหะ มานะ และริษยา ดำเนินชีวิตทุกก้าวย่างอย่างไม่ประมาท ด้วยการประพฤติดีปฏิบัติชอบตั้งแต่ก่อนตายไปจนถึงขณะกำลังตาย เพราะทั้งกรรมดีและกรรมชั่วจะส่งผลไปภายหลังการตาย และด้วยการปฏิบัติธรรมอันมีโพธิจิตเป็นรากฐานโดยเน้นการฝึกจิตให้เป็นสมาธิ บริสุทธิ์ ชัดเจน ใสกระจ่าง ว่าง และกว้างใหญ่ไพศาล มีมหากรุณาช่วยสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์ทางกายและใจ ทั้งในขณะที่มีชีวิตอยู่และเมื่อถึงเวลาใกล้ตายหรือตายแล้ว พระลามะหรือคนที่ฝึกจิตมาอย่างดีจะสามารถทำโพวาช่วยส่งวิญญาณหรือขับเคลื่อนดวงจิตในขณะที่อยู่ในบาร์โดให้ไปสู่สุคติหรือพุทธเกษตรได้
ในการบูรณาการการเตรียมตัวตายในพระพุทธศาสนาเถรวาทกับวัชรยานให้ใช้ได้กับพุทธศาสนิกชนชาวไทยเพื่อพร้อมเผชิญความตายอย่างมีสตินั้น สามารถทำได้ดังนี้ ๑) การบ่มเพาะความเมตตาและกรุณาในหัวใจ ๒) เรียนรู้กระบวนการตายจากคัมภีร์มรณศาสตร์เพื่อรู้จักคุ้นเคยกับขั้นตอนการตาย ๓) เสริมสร้างให้จิตมีศักยภาพ ในการเจริญมรณสติและเจริญอภิณหปัจจเวกขณ์เพื่อพิจารณาเนือง ๆ ถึงความจริงของชีวิต และฝึกโพวาเพื่อช่วยส่งจิตทั้งของผู้อื่นและของตนเองให้ไปสู่สุคติหรือพุทธเกษตร ดังนั้นชาวพุทธทั้งหลายจึงควรปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังตั้งแต่บัดนี้ เพื่อให้ตระหนักรู้ในเรื่องการดำเนินชีวิตที่ดีอย่างมีปัญญา และสามารถข้ามพ้นอวิชชาไปได้
download |